Tag: ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ

บทความ

UV กับการนำมาใช้ฆ่าเชื้อโรค

June 11, 2018

คุณพ่อคุณแม่หลายๆคนยังมีความกังวลกับการจะใช้งานตู้อบแห้งฆ่าเชื้อโรคด้วย UV และยังสงสัยว่าแสง UV จะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้จริงหรือเปล่า? แล้วจะฆ่าเชื้อโรคได้ยังไง? เพราะหลายคนๆยังรู้จักเพียงวิธีฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนเท่านั้น แต่จริงๆแล้ววิธีฆ่าเชื้อโรคในของใช้ต่างๆของลูกยังมีอีกหลายวิธี (7วิธีกำจัดเชื้อโรคในขวดนมลูก) และแสง UV ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่กำจัดเชื้อโรคได้ดีที่สุด ปลอดภัย สะดวกสบายและ ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ

มาทำความรู้จักกับ UV   

UV (Ultraviolet) แสงยูวี หรือที่เรารู้จักว่า แสง UV นั้นมาจากแสงของดวงอาทิตย์ เป็นช่วงแสงที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่จุดเด่นคือ มีคุณสมบัติพิเศษ ที่มีความยาวคลื่นยาวกว่ารังสี X-Rays ทำให้มีพลังงานสูง สามารถส่องทะลุผ่านผิววัตถุได้ง่ายกว่าแสงที่เราเห็นทั่วๆไป

แสงยูวี สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ UVA ,UVB และ UVC

แสงยูวีประเภท UVA : มีความยาวคลื่นมาก (320-400 nm) จะรู้จักกันในนาม “Black Light” ถูกใช้ในการทำ Skin Tanning และการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง

แสงยูวีประเภท UVB : มีความยาวคลื่นระดับกลาง (280-320 nm) สามารถส่งผลอันตรายต่อผิวหนังและตาได้ โดยมากจะดูดซับไว้โดยชั้นโอโซนของโลก แต่ก็ยังมีเล็ดลอดส่องมาถึงเราบ้างจึงมีการผลิตครีมกันแดดที่สามารถกันรังสี UVA และ UVB ได้

แสง ยูวีประเภท UVC : มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด (200-280 nm) แต่มีพลังงานสูงสุด มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อมากที่สุด รังสี UVC ถูกนำไปใช้ประโยชน์เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อโรคในอากาศ พื้นผิวและน้ำ แต่แสงยูวีประเภทนี้มีอันตรายต่อผิวหนังและตามากที่สุดจึงไม่ควรได้รับแสงโดยตรง

โดยมากจะมีเพียงแสงยูวีประเภท UVA เท่านั้นที่สามรถส่องผ่านมาถึงผิวโลกได้ ส่วน UVB และ UVC จะถูกโอโซนในชั้นบรรยากาศดูดซับปริมาณส่วนมากไว้ก่อนแล้ว

แล้วนำแสง UV มาใช้ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไร?

UV แสงยูวีที่นำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคนั้น เกิดมาจากการสังเคราะห์ UVC ขึ้นเอง นั้นก็คือระบบ “UVGI” (Ultraviolet Germicidal Irradiation) หรือ ระบบการใช้แสงยูวีที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ (Germicidal Range) เพื่อฆ่าและทำลายเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Virus Bacteria Fungi และ Yeast & Mold ที่อยู่บนพื้นผิวและในอากาศ หากเชื้อโรคต่างๆได้รับปริมาณแสง UVC ในระยะเวลาที่เพียงพอ แสงยูวีจะทะลุเข้าไปใน DNA ของเชื้อโรค ทำให้ DNA เพี้ยนไปจากปรกติ เชื้อโรคไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ ก็จะตายในที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีการทำลายเชื้อโรคชนิดรุนแรง

โดยระบบ UVGI ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้มากกว่า 100 ปีแล้ว และนิยมมากในประเทศแถบยุโรป เริ่มจากใช้ฆ่าเชื้อโรคในโรงพยาบาลทุกแห่งก่อน และในปัจจุบันมีการนำมาใช้แพร่หลายมากขึ้น นอกจากโรงพยาบาล คลินิก โรงงานต่างๆ ยังนำมาประยุกต์ใช้ในบ้านเรือน หรือแม้แต่พกพาไปในที่ต่างๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในที่สาธารณะได้เลยทันที

การฆ่าเชื้อด้วยระบบ UVGI  แบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน

การฆ่าเชื้อโรคในอากาศ (Air Disinfection) : คือ การฆ่าเชื้อที่ลอยอยู่ในอากาศ ในสถานที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากหรืออยู่เป็นเวลานาน เช่น โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ หอประชุม สำนักงาน ห้องฟิตเนต ห้องเรียน เป็นต้น

ฆ่าเชื้อโรคในของเหลว (Liquid Disinfection) : คือ การฆ่าเชื้อโรคในของเหลว เช่น น้ำดื่มฆ่าด้วยด้วยแสงอัลตราไวโอเลต หรือในอุตสาหกรรมบำบัดน้ำเสียฆ่าเชื้อโรคในน้ำก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ เป็นต้น

ฆ่าเชื้อโรคที่พื้นผิวของวัตถุ (Surface Disinfection) : คือ การฆ่าเชื้อโรคแบบเฉพาะเจาะจง ใช้ฆ่าเชื้อบนพื้นผิวโดยใช้แสง UVC บริเวณที่โดนแสงเชื้อโรคก็จะโดนทำลาย ซึ่งปริมาณความเข้มของแสง ระยะห่าง และระยะเวลา ต้องสัมพันธ์กัน เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูงสุด เช่น ฆ่าเชื้อบนราวจับรถเข็น ฆ่าเชื้อภาชนะ อุปกรณ์ในห้องครัว ฆ่าเชื้อในห้องนอน ฆ่าเชื้อบนพื้นขณะดูดฝุ่น ฆ่าเชื้อแปรงสีฟัน ฆ่าเชื้อบนสุขภัณฑ์ ฆ่าเชื้อของใช้ และของเล่นเด็กต่างๆ เป็นต้น และการฆ่าเชื้อโรคประเภทนี้นี้เอง ที่ตู้อบ UV นำมาประยุกค์ใช้งาน เพื่อความสะอาดของ ของใช้ในครอบครัว

โดยในปัจจุบัน หน่วยงานต่างๆได้รองรับในประสิทธิการกำจัดเชื้อโรคด้วยระบบ UVGI นี้ อาทิเช่น CDC (Centers for Disease Control and Prevention) ที่แนะนำให้ใช้ในโรงพยาบาล ASHRAE (American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers) เองก็แนะนำให้ใช้ในระบบปรับอากาศในอาคาร รวมทั้ง WHO (World Health Organization) ที่แนะนำให้ใช้ระบบ UVGI เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของวัณโรค (Tuberculosis)

นอกจากฆ่าเชื้อโรคแล้ว UV ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกไหม

จุดหลักๆของการนำ UV มาใช้งานนั้นก็คือประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไว้รัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนสิ่งที่เราจะได้ตามมานั้นก็คือการกำจัดกลิ่นอับต่างๆ ที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งแสง UV สามารถกำจัด และลดต้นเหตุของปัญหาได้

ทำไมถึงต้องเลือกใช้ UV ในการฆ่าเชื้อโรคเมื่อมีวิธีอื่นๆ

1.ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ทั้งแบคทีเรียและไวรัส ที่กำจัดได้ถึงขั้น DNA ถือว่าเป็นวิธีการกำจัดชนิดรุนแรงที่สุด

2.ได้รับการรับรอง และถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งใน โรงพยาบาล คลินิก อุตสาหกรรมการผลิตน้ำดื่ม การปรับอากาศในสถานที่สำคัญๆ และใช้ยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ความเชื่อมั่นในการใช้แสง UV ในการฆ่าเชื่อโรคว่ามีประสิทธิภาพสูงสุง

3.สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้มากกว่าขวดนม เพราะแสง UV ไม่มีความร้อน จึงสามารถใช้ได้กับวัสดุที่ทำมาจาก พลาสติก แก้ว ไม้ อลูมิเนียม ซิลิโคน  หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก เรียกได้ว่า ทั้งขวดนม จุกยาง ภาชนะใส่อาหาร ของเล่น รวมไปถึงของใช้ของคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้งานกับแสง UV ได้หมด มีความคุ้มค่าสูง

เพราะความอันตรายของเชื้อโรคนั้น ร้ายแรงกว่าที่คิด ในแต่ละวันมีโอกาสเสี่ยงต่อการปนเปื้นเชื้อโรคตลอดเวลา ทั้งจากการสัมผัส จากการไอ-จาม ทางอากาศ โดยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย ถ้าสิ่งของต่างๆของลูกไม่ได้รับการฆ่าเชื้อโรคที่ดีพอ ลูกก็อาจจะต้องเจอกับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียจนทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องร่วง  อาหารเป็นพิษ หรือการติดเชื้อไวรัสต่างๆ อาการเหล่านี้เป็นอันตรายต่อลูกอย่างมาก เมื่อคุณพ่อคุณแม่รู้ถึงวิธีการกำจัดเชื้อโรคด้วยรังสี UV และใช้งานตู้อบ UV ได้อย่างถูกวิธี ก็จะช่วยคุณทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สะอาด ปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว

                              

ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV Prince&Princess Baby UV Sterilizer Gen3                              ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ Prince&Princess Baby UV Mini

บทความ

รังสี UV ฆ่าเชื้อโรคได้จริงหรือ ?

June 13, 2017

สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ส่วนใหญ่การทำความสะอาดขวดนม จะใช้วิธีการต้ม หรือนึ่ง โดยเป็นการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนสูง ซึ่งเหมาะกับพาชนะที่เป็นแก้ว หรือซิลิโคน ส่วนขวดนมแบบพลาสติกการใช้ความร้อนสูงมากๆ ทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และเกิดการปล่อยสารต่างๆ ออกมาจากพลาสติกนั้น เช่น สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพ แถมยังทิ้งไอน้ำไว้ที่ก้นขวด ซึ่งไอน้ำนี้อาจมีเชื้อแบคทีเรียแฝงอยู่

ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการคิดค้นการฆ่าเชื้อโรค โดยรังสี UV ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดนมพลาสติก ยางกัด จานชาม หรือแม้แต่อุปกรณ์อเลกทรอนิก มาทำความรู้จักกับ หลอดรังสี UV-C ที่หลายคนสงสัยว่า ฆ่าเชื้อโรคได้จริงไหม?

รังสี UV คืออะไร

แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสี 2 ส่วนคือ รังสีที่มองเห็นได้และมองไม่เห็นรังสีที่มองเห็นได้ จะมี 7 สี แต่จะสามารถเห็นต่อเมื่ออากาศมีความชื้นสูง รังสีจากดวงอาทิตย์ตกกระทบกับน้ำในอากาศ เราจะสามารถมองเห็นสีทั้ง 7 ได้ ที่เรียกว่า “รุ้งกินน้ำ” นั่นเอง รังสีที่มองไม่เห็น คือพลังงานในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจากดวง อาทิตย์ มี 2 ส่วนคือ

  1. รังสี UV หรือ Ultra Violet (อัลตราไวโอเลต) ทำให้เกิดการเผาไหม้
  2. รังสี Infrared (อินฟาเรด ) ทำให้เกิดความร้อน

ระดับควมเข้มของรังสี UV แบ่งตามความเข้มข้นได้ 3 ระดับคือ

  • รังสี UV-A ระดับความเข้มข้นต่ำสุด ถูกดูดซึมไปในชั้นบรรยากาศเล็กน้อย
  • รังสี UV-B ระดับความเข้มข้นปานกลาง ถูกดูดซึมไปบางส่วน
  • รังสี UV-C ระดับความเข้มข้นสูงสุด ถูกดูดซึมไปในชั้นบรรยากาศเกือบหมด ไม่ค่อยหลงเหลือลงมาสู่พื้นโลก

รังสี UV สามารถฆ่าเชื้อได้อย่างไร

  • เนื่องจากรังสี UV-C เป็นรังสีที่เป็นอันตรายเพราะมีความสามารถในการเผาไหม้สูง นักวิทยาศาสตร์จึงนำมาประยุกต์ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคที่เป็นอันตราย
  • หลอดสังเคราะห์รังสี UV-C คือ หลอดไฟชนิดพิเศษที่สังเคราะห์รังสี UV-C เลียนแบบธรรมชาติเพื่อสำหรับการฆ่าเชื้อโรค มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Germicidal Lamp (เจิมมิไซโดล แลมป์) หรือเรียกสั้นๆ ว่าหลอด UV

การนำรังสี UV มาประยุกต์ใช้งานภาคอุตสาหกรรม

  1. สถานที่สาธารณะ ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากหรืออยู่เป็นเวลานาน เช่นห้องเรียน, ค่ายทหาร, โรงภาพยนตร์, หอประชุม, ห้องรับรอง, สำนักงาน ให้ติดตั้งหลอดUVGI ในท่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศ, ท่อปรับสภาพอากาศ
  2. โรงพยาบาล ตึกคนไข้, ห้องตรวจ, ครัว, ที่เก็บเครื่องมือผ่าตัดและอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ อาหารและเครื่องดื่ม ทั้งขั้นตอน ขณะผลิต, บรรจุหีบห่อ, จัดเก็บ
  3. อุตสาหกรรมการผลิตเวชภัณฑ์ รวมถึง สารปฏิชีวนะ ยา และเครื่องสำอาง
  4. การป้องกันสัตว์ป่วย ใช้กับเรือนปศุสัตว์, คอก, ฟาร์ม, เล้า, กรงขัง รวมไปถึงสวนสัตว์ได้
  5. ห้องทดลอง และเครื่องมือทดลองต่างๆ
  6. โรงงานผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด Water

ประโยชน์จากการใช้รังสี UVในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง

» การใช้รังสี UV ฆ่าเชื้อในน้ำดื่ม

» การใช้รังสี UV ฆ่าเชื้อในอากาศ

» การใช้ในตู้ปลาเพื่อฆ่าเชื้อป้องกันตะไคร่

» การใช้รังสีเพื่อความงาม

» การใช้รังสี UV เพื่อดักจับแมลง

» การใช้รังสี UV ในเครื่องตรวจธนบัตร

ปัจจุบันได้มีการพัฒนามาเป็น Baby UV Sterilizer ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนึง ที่ทุกบ้านต้องมี โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกเล็กๆ หรือผู้ป่วย ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ที่ต้องดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ

เพราะเชื้อโรคมีขนาดเล็กและซ่อนอยู่ในสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวเรา  คุณพ่อคุณแม่อย่างเราจึงต้องจัดการกับเชื้อโรค ที่อาจจะมาปนเปื้อนอยู่ในสิ่งของเครื่องใช้ของเรา โดยเฉพาะกับของใช้ของลูกน้อยที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ซึ่งมีโอกาศป่วยจากการสัมผัสสิ่งปนเปื้อนได้ง่าย

Prince & Princess จึงผลิต Baby UV Sterilizer ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในการดูแลลูกน้อยอย่างเหนือกว่า ผลิตและรับรองคุณภาพพร้อมผ่านการทดสอบในห้องวิจัยถึงประสิทธิภาพการทำงานในการฆ่าเชื้อในประเทศเกาหลี

**ผลวิจัยโดยสถาบัน Korea Testing & Research Institute**

ฆ่าเชื้อโรคอะไรได้บ้าง

  • Escherichia coli หรือ E. coli(อิโคไล) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ถ่ายอุจจาระเหลว หรือเป็นน้ำ
  • Staphylococcus aureus เป็น แบคทีเรียที่ก่อโรคอาหารเป็นพิษ หลังจากรับประทานอาหาร ที่มีแบคทีเรีย ปนเปื้อนเข้าไปประมาณ 1-6 ชั่วโมง อาการของโรคคือ คลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วง ปวดศีรษะ มีการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิตเป็นระยะๆ อาการมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ในบางรายรุนแรงอาจช็อคได้
  • Salmonella Typhimurium แบคทีเรียชนิดนี้หากพบในอาหารเพียงเล็กน้อยก้ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ เช่น ไข่ดิบ นมดิบ เนย ไอศกรีม เนยแข็ง และผักบางชนิด อาการจะเกิดขึ้นหลังบริโภค 6-48 ชั่วโมง อาการทั่วไป ชีพจรเต้นช้ากว่าปกติ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ ปวดท้อง มีไข้ หนาวสั่นและอ่อนเพลีย ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตด้วยโรคนี้เนื่องจากเลือดออกในลำไส้เล็ก และลำไส้ทะลุ

Pseudomonas aeruginosa เชื้อโรคชนิดนี้จะมีการติดเชื้อกับผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำมีอาการภูมิแพ้ หรือป่วยมากๆ ก่อให้เกิดโรคปอดบวม และสามารถติดเชื้อได้ในหลายส่วนของร่างกาย คนสุขภาพดีก็สามารถติดเชื้อได้ จากการอาบน้ำหรือเล่นน้ำ ในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ซึ่งโรคติดเชื้อ ที่ผิวหนังนี้มักจะเกิดการสับสนกับโรคอีสุกอีใส และจะเกิดอาการรุนแรงได้กับผู้ที่มีเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วย

 

 

ใช้ฆ่าเชื้อได้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์

  • สามารใช้ฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนของเล่นและของใช้อื่นๆได้
  • สามารใช้ฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ รีโมทคอนโทรล ที่เด็กๆ มักชอบเล่นและอาจนำเข้าปาก

 

 

 

 

4 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดี กับ Baby UV Sterilizer

  1. ล้างภาชนะให้สะอาด ล้างทำความสะอาดขวดนม และผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อย ด้วยน้ำยาทำความสะอาดออแกร์นิค และล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
  2. นำภาชนะวางเรียงแบบหงาย ควรสะบัดน้ำออกและวางเรียงแบบหงายขึ้น เพื่อให้การอบแห้งทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรสะบัด 4-5 ครั้ง เพื่อให้ละอองน้ำเหลือน้อยที่สุด
  3. กดปุ่ม Auto 1 ครั้ง รอเวลา 30 นาที ระบบ Auto เหมาะสำหรับฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในขวดนมเด็กอ่อน รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้ ด้วยการทำงานอย่างเป็นระบบ ตู้อบฆ่าเชื้อระบบแสง UV สามารถฆ่าเชื้อและจัดเก็บขวดนมและของใช้เด็กอ่อนอื่นๆ ไว้ในตู้ให้แห้งพร้อมใช้โดยปราศจากความชื้นที่อาจก่อให้เกิดเชื้อราได้ ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ สามารถทำความสะอาดขวดนมได้มากถึง 16 ขวดในเวลาเดียวกัน

(ใช้เวลา 30 นาที อบแห้ง 20 นาที ฆ่าเชื้อด้วย UV 5 นาที (ระบายอากาศไปพร้อมๆกับการอบแห้งและฆ่าเชื้อ 30 นาที)

  1. นำภาชนะออกมาใช้งานได้เลย เมื่อทำการฆ่าเชื้อโรคด้วยUV จนจบกระบวนการ 30 นาที สามารถนำภาชนะออกมาใช้งานได้ทันที หรือหากยังไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถเก็บภาชนะนั้นไว้ในตู้อบแห้งฆ่า Baby UV Sterilizer ได้ เมื่อต้องการนำออกมาใช้ ก็ไม่ต้องทำการฆ่าเชื้อซ้ำให้เสียเวลา

นวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลลูกน้อยให้พ้นจากเชื้อโรคมาตราฐานความสะอาดที่เหนือกว่า จากประเทศเกาหลีตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV Prince & Princess Baby UV Sterilizer Gen 3

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์

  • Central / The mall / Emporium / Paragon ทุกสาขา
  • Baby gift ทั้ง 9 สาขา และ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

หรือสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่